วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

....วิธีตั้งสติ ใช้สตางค์....

ท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ์ วีรยุทโธ) พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี เนปาล ท่านบอกว่า..."คนเราสมัยนี้มีความรู้กันมาก แต่รู้อะไรไม่เท่ารู้เนื้อ รู้ตัวความรู้เนื้อ รู้ตัวนี้ ก็คือ มีสติ นั่นเอง แล้วถ้ามีสติ ก็จะมีสตางค์เพราะคนมีสติจะตั้งอกตั้งใจทำงานหาสตางค์ พอมีสตางค์แล้ว ก็ตั้งสติในการใช้จ่าย ไม่หลงใช้ฟุ่มเฟือยเกินตัว หรือใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์"
วิธี "ตั้งสติ ใช้สตางค์" ให้ดูจาก ศีล ๕ ที่ชาวพุทธจำได้ขึ้นใจอยู่แล้ว แต่นำมาปรับมุมมองใหม่ ดังนี้...
๑. ปาณาติบาตฯ : (งดเว้น)การฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตมองว่าคือ ใช้สตางค์เพื่อชีวิต ใช้เพื่อความอยู่รอด ซื้อหาปัจจัย ๔
๒. อทินนาทานฯ : (ไม่) ลักขโมย เอาทรัพย์ของผู้อื่นมองว่าคือ ใช้สตางค์เพื่อหารายได้ หาสตางค์เพิ่มขึ้น ทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า การลงทุนหรือที่ชอบพูดกันว่า "ให้เงินทำงาน"
๓. กาเมสุมิจฉาฯ : ไม่ประพฤติผิดในกามมองว่าคือ ใช้สตางค์เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง ฯลฯ
๔. มุสาฯ : (ไม่) พูดเท็จ หลอกลวงมองว่าคือ ใช้สตางค์เพื่อตอบแทนให้สังคมบ้างตามสมควร
๕. สุรา เมรยฯ : (งด) สุรา เครื่องดองของเมามองว่าคือ ใช้สตางค์เพื่อดูแลสุขภาพ อย่าใช้ไปในทางที่ทำให้เกิดความเสื่อม
ท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี บอกว่า แนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สอดคล้องกันอย่างยิ่งกับหลักทางพระพุทธศาสนาคำว่า "พอเพียง" ไม่ใช่ มีน้อย หรือ ไม่กระตือรือร้น ไม่หาเพิ่มแต่หมายถึง มีให้พอใช้ตามสถานะของตนเพราะฉะนั้น "พอเพียง" จึงมากกว่า "กระตือรือร้น" เสียอีก เพราะต้องมีให้พอเมื่อมีเงินพอแล้ว ก็ใช้เงินให้มีความสุขอย่าให้เงินใช้เรา เพราะจะทำให้มีความทุกข์ มีเงินเท่าไร
ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น