ค่าของใจสำคัญยิ่งกว่าความสมหวังทั้งหลาย
'ใจ'...เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผู้มีปัญญาเห็นค่าของใจสูงกว่าค่าของสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ดังนั้นผู้มีปัญญาจึงพร้อมจะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเพิ่มพูนความดีงามให้แก่จิตใจตน สมเด็จพระบรมศาสดาก็ได้ทรงเสียสละอย่างยิ่งยวดเพื่อค่าสูงยิ่งของใจ คือเพื่อให้ทรงได้มาซึ่ง...'ใจที่พ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง' ทรงเสียสละราช-สมบัติ ทรงเสียสละพระมเหสี พระปิโยรสเพียงพระองค์เดียวทรงเสียสละความสุขมากมายเหลือจะประมาณ ซึ่งทรงมีอยู่เหนือมนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก เพื่อความพ้นทุกข์ทางพระ-หฤทัย นี้ก็เพราะทรงเห็นค่าของใจสูงกว่าค่าของทุกสิ่งทุกอย่างดังกล่าวแล้ว
ผู้ไม่สมหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วเกิดความทุกข์ เพราะความไม่สมหวังนั้นมีวิธีคิดที่น่าจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่จิตใจตนเองอย่างที่สุด คือคิดว่าถ้านำความไม่สมหวังนั้นมาเป็นทางดำเนินไปถึงความมีค่าเพิ่มพูนขึ้นของจิตใจ ก็จะได้ประโยชน์กว่าถ้าสมหวังแล้วจิตใจไม่มีค่าขึ้น คือไม่ดีขึ้นกว่าระดับเดิม
ความไม่สมหวังจะทำให้ค่าของจิตใจเพิ่มขึ้นอย่างไร มีอธิบายดังนี้ ถ้าความไม่สมหวังเกิดขึ้น แล้วทำสติให้รู้ทัน ว่าเป็นสิ่งเกิดขึ้นแล้วผ่านไปแล้ว ควรไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น อยากให้ไม่เกิดขึ้นเช่นนั้น แต่อยากให้เกิดเป็นอีกอย่างหนึ่งคือเป็นความสมหวังเช่นนี้นับว่าเป็นการเพิ่มค่าให้แก่จิตใจ คือทำให้จิตใจปล่อยวางได้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นได้ แม้เพียงในเรื่องเดียวก็นับว่าเป็นการดียิ่งแก่จิตใจ ทำให้จิตใจดีขึ้น เพิ่มค่าขึ้น
ดังนั้น เมื่อเราไม่สมหวังเกิดขึ้นในเรื่องใด แทนที่จะปล่อยใจให้ต่ำลงเพราะความเสียใจ ก็ควรรีบคิดเสียในทันที...ว่าค่าของใจสำคัญยิ่งกว่าความสมหวัง... ไม่ว่าเรื่องยิ่งใหญ่เพียงใดทั้งนั้นโดยถือความผิดหวังนั้นเองเป็นบันได จะถือว่าเป็นการตกบันไดพลอยโจนก็ยังดี คือไหนๆก็ผิดหวังแล้ว คิดเสียให้ได้ว่าผิดหวังนั่นแหละดี ก็ไม่เป็นไรจะเป็นการตกบันไดพลอยโจนที่น่าจะยินดีทำทั่วกัน ดีกว่าที่จะตกบันไดแล้วยังนำความเศร้าเสียใจมาเป็นอาวุธทิ่มแทงใจตนเองให้เจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีกกว่าเป็นไหนๆ พึงใช้สติปัญญาพิจารณาให้ดีในเรื่องนี้เพราะมิใช่ไม่สำคัญ
ความจริงเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน เพราะทุกคนต้องประสบความไม่สมหวังอยู่เกือบตลอดเวลา ไม่เรื่องนั้นก็เรื่องนี้ หนักบ้าง เบาบ้าง ต่างกันเท่านั้น การหาวิธีช่วยตนเองเพื่อป้องกันและเพื่อแก้ไขไม่ให้เกิดทุกข์ เพราะความไม่สมปรารถนาจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรละเลย ต้องถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งจึงสมควร
'ใจที่สงบ'...เป็นใจที่มีค่า ความเสียดายความเสียใจ และความทุกข์ความโกรธแค้น ขุ่นเคือง ล้วนเป็นเหตุแห่งความไม่สงบของจิตใจทั้งสิ้น แม้ดูใจตนเองเพียงนิดเดียวก็จะแลเห็นว่าความจริงมีอยู่เช่นนี้ เวลาเสียใจหรือเวลาโกรธจะไม่สงบ จะวุ่นวาย หวั่นไหว พยายามเชื่อว่าใจที่สงบเป็นใจที่มีค่า เชื่อเมื่อไรแล้วก็ให้เชื่อต่อไปว่าความเสียใจก็ตาม ความไม่สบายใจก็ตาม นั่นแหละทำให้ใจไม่สงบ ทำให้ใจลดค่าลง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ให้เชื่อต่อไปอีกว่า ไม่ว่าจะเกิดความผิดหวังมากมายเพียงใดก็ตาม ถ้ารักษาใจให้สบายได้แล้วนั่นแหละเป็นการยกระดับค่าของจิตใจตนให้สูงขึ้น เป็นการปฏิบัติที่ผู้มีปัญญาทั้งหลายปฏิบัติกันอยู่โดยทั่วไป...ฯ
~สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น