เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 21 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ แถลงที่ ศอฉ. ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 พ.ค. จนถึงขณะนี้เหตุการณ์ที่ผานมาได้นำมาซึ่งความสูญเสีย ตน รัฐบาล และประชาชน รู้สึกเสียใจกับเหตุการร์ที่ร้ายแรงที่เกิดขึ้นแต่ขอขอคุณประชาชนที่สื่อสารแสดงความเข้าใจถึงความจำเป็นของรัฐบาลในการเข้าปฏิบัตการเพื่อให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้
"การปฏิบัตการทั้งหมดนั้น ผมขอขอบคุณหลายๆ ฝ่ายซึ่งได้อดทนเสียสละปฏิบัตหน้าที่อย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกคอง ท้องถิ่น เอกชน อาสาสมัคร กาชาด ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้สถานการณ์ลุล่วงมาถึงจุดนี้ หลายคนเอาชีวิตเข้าช่วยเสี่ยงภัย"
การตัดสินใจในปฏิบัตการคำนึถงสูงสุคือคุณค่าของชีวิตประชาชน สถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้ภาวะประชาชนตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะประชาชนผู้บริสุทธ์ยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักสากล ถึงเวลาที่เราจะเข้าสู่การฟื้นฟูในแง่ตึกรามบ้านช่อง เราทำได้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือการฟื้นฟูจิตใจที่จะต้องเกิดขึ้นต่อไป ภาระกิจขณะนี้ จะแบ่งเป็นภาระกิจเฉพาะหน้าและภาระกิจหลังจากนั้น
สำหรับภาระกิจเฉพาะหน้า คือเร่งฟื้นฟูเยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการก่อการร้าย วินาศกรรม และวางเพลิง นอกจกานั้น ประชาชนจำนวนมากตกใจ หวั่นไหว ไม่ปลอดภัย ทาง ศอฉ.และรัฐบาลพยายามปรับรูปแบบการทำงาน โดยให้มีการบูรณาการ โดยให้ทหาร กทม. อาสาสมัครที่ะจคอยเป็นหูเป็นตาสอดสอ่งในช่วง 2-3 วัน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด
สำหรับมาตรการในระยะกลาง เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ เราก็จะเริ่มยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนกลับสู่ภาวะปกติตามลำดับ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง ขณะเดียวกันในแง่ของคดีกับผู้กระทำความผิดเราก็จะดำเนินการตรงไปตรงมา ต่อเนื่อง เด็ดขาด และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ในการฟื้นฟูประเทศและจิตใจในระยะยาว ก่อนหน้านี้ ตนเคยเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ แผนดังกล่าวยังเป็นเจตนารมรณ์สำคัญที่ยังยึดถืออยู่ แต่ส่วนที่จะเพิ่มคือการฟื้นฟูทั้งด้านจิตใจ สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง มาถึงขณะนี้กระบวนการปรองดองจะเน้นในการมีส่วนร่วมชองประชาชน ให้เกิดความสงบสุขและให้พี่น้องประชาชนเป็นหนึ่งเดียวปฏิบัตการที่ได้ทำมาทั้งหมด ได้ช่วยให้เราจัดการผู้กระทำผิดกฎหมาย กระทำไม่ดีต่อบ้านเมือง ประชาชนที่มีข้อเรียกร้องเป็นเรื่องแผนฟื้นฟูปรองดองเป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยเหลือจริง
"เราอยู่บ้านเดียวกัน บ้านเราได้รับความเสียหาย เราได้แยกแยะคนเผาบ้าน และจะต้องได้รับโทษ แต่ผู้ได้รับความเดือดร้อนอาจจะมีความคิดเห็นหลากหลาย แต่ผมขอเชิญชวนว่าอะไรที่เป็นเรื่องแตกต่างควรรับฟังกัน และลงแรงลงใจกัน กระบวนการนี้จะต้องเริ่มต้นนับแต่นาทีนี้ ได้เริ่มต้นกับภาครัฐ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไม่เฉพาะกับพี่น้องประชาชนคนไทย แต่ออกสู่ประชาคมโลก เพื่อให้ราบรื่นและรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของคนไทยทุกคน ขอบคุณอีกครั้งกับความร่วมมือที่พี่น้อประชาชนมีใหักับรัฐบาลและ ศอฉ.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น