วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

หน้าที่ของเราคือทำความเพียร


พระศาสดาจึงตรัสว่าเรื่องของเป็นเอง เมื่อเราทำไปถึงขั้นนี้แล้วเราก็ปล่อยตามบุญวาสนาบารมีของเรา แต่เราไม่หยุดทำความเพียร จะช้าหรือเร็วเราบังคับไม่ได้ เหมือนปลูกต้นไม้มันรู้จักของมัน มันอยากเร็วก็รู้ว่ามันหลง มันอยากช้าก็รู้ว่ามันหลง เมื่อทำแล้วจึงเกิดผลขึ้นมา เหมือนเราปลูกต้นไม้เช่นปลูกพริกต้นนี้ หน้าที่ของเราคือขุดหลุมปลูกให้น้ำให้ปุ๋ยรักษาแมลง ให้มันเท่านั้นนี่เรื่องของเรา นี่เรื่องศรัทธาของเรา ส่วนต้นพริกจะโตก็เป็นเรื่องของมันไม่ใช่เรื่องของเรา จะไปดึงให้มันยืดขึ้นมาก็ไม่ได้ผิด เรื่องเราต้องให้น้ำเอาปุ๋ยใส่ให้
ถ้าเราปฏิบัติอย่างนี้ก็จะสบายจะถึงชาตินี้ก็ช่างถึงชาติหน้าก็ตาม เรามีศรัทธาอย่างนี้แล้วมีความรู้สึกแน่นอนแล้ว อย่างนี้จะเร็วหรือช้านั้นเป็นเรื่องของบุญวาสนาบารมีของเรา ทีนี้ก็รู้สึกสบายเหมือนขับรถม้า ก็มิได้เอารถไปก่อนม้า แต่ก่อนมันเอารถไปก่อนม้า ถ้าไถนาก็เดินก่อนควายหมายความว่าใจมันเร็วมากร้อนมาก ทีนี้ไม่เป็นอย่างนั้นไม่เดินก่อนต้องเดินตามหลังควาย
ข้าเอาน้ำให้กินเอาปุ๋ยให้กินกินไปเถอะ มดปลวกมาข้าจะไล่ให้เจ้า เท่านั้นแหละต้นพริกต้นนี้มันก็จะงามขึ้นเอง เมื่อมันงามแล้วเราจะบังคับว่าแกต้องเป็นดอกเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าทำเราจะเป็นทุกข์เปล่าๆ มันจะเป็นของมันเอง เมื่อมันเป็นดอกแล้วเราจะให้เป็นเม็ดเดี๋ยวนี้ อย่าไปบังคับมันทุกข์จริงนาทุกข์จริงๆ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เรารู้จักหน้าที่ของเราของเขาหน้าที่ของใครของมั น จิตก็จะรู้หน้าที่การงาน ถ้าจิตไม่รู้หน้าที่การงานก็จะไปบังคับต้นพริกให้มีผลในวันนั้นเอง ให้มันโตเป็นดอกเป็นผลขึ้นในวันนั้น นั่นล้วนแต่เป็นตัวสมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์ขึ้นมาทั้งนั้น
ถ้ารู้อย่างนี้คิดอย่างนี้ รู้ว่ามันหลงมันผิดรู้อย่างนี้แล้วก็ปล่อยให้เป็นเรื่องบุญวาสนาบารมีต่อไป เราก็ทำของเราไปไม่ต้องกลัวว่าจะนานร้อยชาติพันชาติก็ช่างมัน จะชาติไหนก็ตามปฏิบัติสบายๆนี่แหละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น