วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

30 สิ่ง น่าทำ ตอนยังมีชีวิต


• 1. ทำอะไรที่น่าตื่นเต้นในแต่ละวัน
• 2. ไปเที่ยวที่ที่คุณไม่เคยไป กับคนที่คุณไม่เคยคิดจะลืม
• 3. ซื้อความสุข ด้วยรอยยิ้ม
• 4. คุยกับคนแปลกหน้า เพื่อหาเพื่อนใหม่
• 5. ช่วยคนอื่น เมื่อคุณสามารถช่วยได้
• 6. สังเกตสิ่งรอบๆตัว อาจพบความสุขเล็กๆ เข้ามาในชีวิต
• 7. อยู่เงียบๆ กับตัวเองวันละ 5 นาที... เพื่อคิด
• 8. ทุ่มตัวเองเต็มที่ กับการหาทางแก้ปัญหา ที่คุณกำลังเผชิญอยู่
• 9. คบคนที่มองโลกในแง่ดี
• 10. เข้าคอร์สเรียนเพิ่มเติม ในเรื่องที่คุณสนใจ
• 11. จัดเวลา นัดเจอ เพื่อนสนิท ในแต่ละเดือน ไป กิน เที่ยว เล่น
• 12. มองพระอาทิตย์ขึ้น สัปดาห์ละครั้ง
• 13. ดูพระอาทิตย์ตกดิน สัปดาห์ละครั้ง
• 14. ปลูกผักเอง เอาไว้ทานเอง
• 15. ไปหาเพื่อน ที่ไม่ได้เจอกันมานานนับปี
• 16. หยุดตามกระแสสักนิด และทำตามแนวคิดที่เหมาะสำหรับตัวเอง
• 17. บอกตัวเองว่า ไม่มีอะไรสายเกินไป
• 18. ค้นหา ประสบการณ์ดีๆ แปลกใหม่ ให้กับชีวิต
• 19. เลิกกังวลกับสิ่งที่คุณไม่มี และมีความสุขในสิ่งที่คุณมี
• 20. โรแมนติก ทำเซอร์ไพรซ์คนที่คุณรัก
• 21. หยุดเสียเวลา กับเรื่องหยุมหยิมที่ไม่จำเป็น
• 22. รับประทานอาหารให้ช้าลง ลิ้มรสความอร่อย
• 23. ขอความช่วยเหลือ เมื่อต้องการ เพราะคุณจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ หากไม่เอ่ยปาก
• 24. ถามคำถาม เมื่อสงสัย... ช่วยประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากใจ
• 25. เล่นสนุกบ้าง ชีวิตมีแค่ครั้งเดียว
• 26. ทำอะไรทีละอย่าง จะได้ทำออกมาได้ดี
• 27. ฝึกความพอเพียง – พอดี เมื่อมันเกิดขึ้นกับคุณ จะไม่มีใคร เอาไปจากคุณได้
• 28. รักษาสัญญา
• 29. ดูตลก ฟังเรื่องตลก และแบ่งปันกับคนอื่น
• 30. เปิดโลกความคิดสร้างสรรค์ของคุณ กับงานศิลปะ เช่นดนตรี ภาพถ่าย ภาพยนตร์ ฯลฯ

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

กิน เลือกเพศลูกได้จริงหรือ!



มีผลการวิจัยของนักค้นคว้าเรื่องยีนในฝรั่งเศสว่า อาหารก็มีส่วนช่วยให้ได้ลูกสาวหรือลูกชาย ผลการวิจัยระบุว่าอาหารที่มีแร่ธาตุประเภทโซเดียม กับ โพแทสเซียม จะทำให้ได้ลูกชาย ส่วนอาหารที่มีแคลเซียม กับ แมกนีเซียมจะให้ลูกสาว แต่ต้องกินก่อนตั้งครรภ์เป็นเวลานานหลายๆ เดือนเลยทีเดียว ลองดูตัวอย่างอาหารที่มีส่วนช่วยให้ได้ลูกสาวลูกชายต่อไปนี้ค่ะ


วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

ดื่มน้ำตอนไหนดีที่สุด


ทราบหรือไม่ว่าการดื่มน้ำก็ต้องมีเวลาที่ดื่มแล้วให้ประโยชน์สูงสุดเหมือนกัน วันนี้เรามีเรื่องนี้มาฝาก...
ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว (400 ซี.ซี.) เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ
ตอนสายๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า) ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทำงานไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชำระของเสียเหล่านั้นออกไป
ตอนบ่ายๆ 3 แก้ว (เวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง)
ตอนเย็น 3 แก้ว (เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 2 ทุ่ม) ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย และก็ควรดื่มให้ได้อย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดี

วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

การใช้วาจาที่สุภาพแบบไทย


ประเพณีนิยมถือความลดหลั่นกันในทาง ชาติวุฒิ คุณวุฒิ และวัยวุฒิ ซึ่งแสดงว่าเป็นชาติที่มีความรู้สึกนึกคิดประณีต แสดงออกให้เห็นทางความประพฤติทั้งกายวาจาและใจ วาจาไพเราะหรือที่เรียกเป็นศัพท์ว่า ปิจะวาจานั้น ได้แก่ถ้อยคำที่เว้นจากวจีทุจริต วาจาไพเราะเป็นคุณสมบัติสำคัญในการพูด เพื่อความสงบสำเร็จประโยชน์ตนประโยชน์ท่านและย่อมยึดเหนี่ยวใจของผู้ฟังได้ ให้เกิดความนิยมรักใคร่นับถือผู้พูดมารดาบิดาเจรจากับบุตรด้วยถ้อยคำอ่อน หวาน คำนั้นย่อมจับใจของบุตรธิดา ทำให้เกิดความรักใคร่นับถือและกตัญญูต่อบิดามารดายิ่งขึ้น บุตรธิดารู้จักพูด มารดาบิดาย่อมรักเอ็นดูมากขึ้น

ผู้มีมารยาทจะต้องระมัดระวังในการใช้วาจา คือ

1. ต้องระวังมิใช้วาจาเท็จ อันเป็นเหตุให้คนทั้งหลายคลายความเชื่อถือ เพราะความเท็จนั้นจะปรากฏขึ้นมิวันใดก็วันหนึ่ง ถ้ามีผู้จำได้ก็จะเห็นไปว่ากิริยาวาจาที่บุคคลพูดเท็จอย่างสุภาพเรียบร้อย นั้นเป็นเสมือน เปลือกที่หุ้มห่อร่างกายอยู่ภายนอก แต่ภายในไม่มีอะไรดีเลย เหมือนกับต้นกล้วยเรียบร้อยข้างนอก แต่ภายในไม่มีแก่น

2. ไม่ใช้วาจายุยงส่อเสียดให้ผู้อื่นแตกร้าว หรือระหองระแหงกัน ควรหลีกเสียอย่างเด็ดขาด การสนทนาที่ดีย่อมไม่กล่าวถึงใครในแง่ร้าย ให้กล่าวถึงเรื่องที่ไม่พาดถึงบุคคลในทางที่จะทำให้เขาเสียหาย ควรพูดนทนาในทาที่จะเกิดความรู้

3. ไม่กล่าววาจาหยาบคายเสียดสีดูถูก หรือขัดคอผู้อื่น จะทำให้ขัดเคืองกันและเป็นการน่าละอายสำหรับผู้ที่แสดงวาจาเช่นนั้นออกมา เพราะจะทำให้ผู้ได้ยอนได้ฟังรู้ไปถึงว่าผู้พูดมีการอบรมมาอย่างไร

4. ต้องพยายามใช้คำพูดที่เหมาะสมที่ควรและถูกหูผู้ที่เราพูดด้วย การพูดวาจาไพเราะย่อมเป็นที่นิยมชมชอบแก่ผู้ได้ยินได้ฟังมาก และยังให้ประโยชน์แก่ตนเองให้เป็นที่นับถือของคนทั้งหลาย ถ้าเข้าใจพูดอาจยังผู้น้อยให้มีแก่ใจทำกิจการด้วยความจงรักภักดี

5. ย่อมไม่พูดเสียงดังจนเกินไป หรือพูดพลางหัวเราะพลางในกลุ่มคนที่ตนร่วมสนทนาด้วย จะทำให้ผู้พูดเสียบุคลิกลักษณะของสุภาพชน

6. คู่สนทนาที่ดีนั้นมิใช่จะเป็นผู้พูดอย่างเดียว หรือฟังอย่างเดียว จะต้องปฏิบัติให้พอดี คือรู้จักพูดให้ผู้ฟังพอใจและเป็นนักฟังที่สนใจ

7. สุภาพสตรีย่อมมีความสำรวมกายอยู่เป็นนิจ ไม่ส่งเสียอื้ออึง ไม่ทำสนิทหรือหยอกล้อกับบุรุษในที่ลับและที่เปิดเผย ไม่พูดจาหยาบคาย ไม่หัวเราะส่งเสียงดัง พูดดังเกินงามจนเป็นจุดเด่นให้คนอื่นหันมาจ้องมอง
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

ดื่ม 'น้ำขิง' คลายเครียดช่วยย่อยอาหาร


ความเครียด เป็นภาวะที่ไม่มีใครอยากประสบพบเจอ แต่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านความเครียดกันมาแล้วไม่มากก็น้อย และแต่ละคนก็จะหาวิธีคลายเครียดที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีจึงขอแนะนำ วิธีคลายเครียดด้วยการดื่มน้ำขิง เพื่อผ่อนคลายที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเนื่องจากขิงเป็นสมุนไพรมากสรรพคุณที่เราสามารถหารับประทานได้ง่าย ๆ แถม รสชาติก็เผ็ดร้อน กลิ่นก็หอมถูกปากถูกใจคนไทยอย่างเรา ๆ เสียด้วย ขิงเป็นพืชล้มลุกมีลำต้นใต้ดินมีลักษณะคล้ายมือหรือที่เรียกว่า “เหง้า” เปลือกเหง้ามีสีเหลืองอ่อนแต่เนื้อภายในมีสีเหลืองอมเขียว จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับข่า ขมิ้น โดยขิงอ่อนมีสีขาวออกเหลือง รสเผ็ดและมีกลิ่นหอม ยิ่งแก่จะยิ่งมีรสเผ็ดร้อน ลักษณะเป็นกอสูงประมาณ 90 เซนติเมตร ก้านใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกัน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับเรียงกันเป็นสองแถว มีรูปร่างคล้ายใบไผ่ ปลายใบเรียวแหลม ดอก มีสีขาวออกเป็นช่อบนยอดที่แยกออกมาจากลำต้น ดอกมีลักษณะเป็นทรงพุ่มปลายดอกแหลม มีเกล็ดอยู่รอบ ๆ ดอกจะแซมออกมาตามเกล็ด ผล มีลักษณะกลมแข็ง ขิงมีคุณสมบัติขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน หอบ ไอ ขับเสมหะ ซึ่งสารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยวิธีนำมาทำยารับประทานใช้ขิงแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อได้ ส่วนขิงสดช่วยย่อยอาหาร เนื่องจากทานมากจนเกินไปหรือมีอาการเมารถ โดยวิธีทำยารับประทานนำขิงสดมาทุบให้แหลก คั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ และเกลือประมาณหยิบมือ ดื่มทันทีจะช่วยลดแก๊ส แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติหรือจะจิบแก้ไอ ขับเสมหะก็ได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำขิงร้อน ๆ ต้มหอม ๆ กลิ่นของมันยังช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้ดีอีกด้วย ทั้งขิงแก่และขิงอ่อนยังให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอีกมากมาย เช่น พลังงาน โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ฯลฯ หากใครจะนำขิงไปปรุงอาหารเป็นขิงผัดเครื่องในไก่ หรือใส่ขิงรับประทานกับโจ๊กก็อร่อยแถมได้ประโยชน์เช่นกัน แต่ข้อควรระวังคือขิงแก่จะมีรสชาติเผ็ดร้อนกว่า ขิงอ่อน หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจมีอาการเผ็ดร้อนจนน้ำหูน้ำตาไหลได้

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

บอกลากันซะที...กับอาการปวดประจำเดือนอันแสนจำเจ


สาวๆ ทุกคนคงจะคุ้นเคยกันดีกับอาการปวดประจำเดือน ทำให้ในช่วงนั้นของเดือน หงุดหงิดใจ รำคาญคนรอบๆ ข้างบ้าง เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวบ้าง แต่ความจริงแล้ว อาการปวดประจำเดือนไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆ เลยค่ะ เพียงแต่เป็นอาการที่เกิดจากมดลูกมีการบีบรัดตัวอย่างรุนแรงเท่านั้น แถมยังเป็นผลดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย เพราะระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานเป็นปกติ แต่ถ้าสาวๆ บางคนมีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยค่ะ ทีนี้เราลองมารู้จักอาการปวดประจำเดือนและวิธีบำบัดในสไตล์สบายอารมณ์กันดีกว่าค่ะ คราวนี้ก็สามารถสนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ ในวันนั้นของเดือนได้ซะทีค่ะ
มารู้จักผู้หญิงในวันนั้นของเดือน- ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลัง ท้องน้อย และปวดศีรษะด้วย- รู้สึกตึง และเจ็บบริเวณหน้าอก และเต้านม- น้ำหนักเพิ่มขึ้น มีอาการอยากรับประทานอาหารเพิ่มขึ้น มีลมในกระเพาะ- มีสิวขึ้น- อารมณ์หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เครียดและวิตกกังวล- ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ไม่สบายตัว อันเนื่องมาจากระดับฮอร์โมนเพศลดลงจากระดับปกติ
ดูแลง่ายตัวเองง่ายๆ ในช่วงมีประจำเดือน
1. รับประทานเมนูปลาเพื่อเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย และดื่มนมมากๆ จะช่วยลดอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง และลดอาการหงุดหงิดได้ผลมากนอกจากนี้ควรรับประทาน วิตามินซี วิตามินดี และโปรตีน เพื่อเสริมในช่วงเสียเกลือแร่ ทำให้ร่างกายไม่เหน็ดเหนื่อยจนเกินไป หรือจะจิบน้ำขิง ชาสมุนไพรร้อนๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย อารมณ์ดี
2. รักษาอุณหภูมิร่างกายให้ปกติ ไม่ควรอาบน้ำที่เย็นเกินไป หรือร้อนเกินไป เนื่องจากระดับฮอร์โมน ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ อาจจะทำให้เกิดอาการป่วยเป็นไข้ร่วมด้วย
3. การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เกิดสมดุลทางร่างกาย และจิตใจ และสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อเบาสบาย ไม่รัดจนเกินไป
4. การเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดความอับชื้น การหมักหมมและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
เคล็ดลับสบายๆ คลายปวดประจำเดือน
ผ่อนคลายด้วยกลิ่นปล่อยอารมณ์ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายไปกับวิธีการกลิ่นบำบัด โดยนำเอาเมล็ดข้าวสาร ข้าวเหนียว หรือธัญพืชต่างๆ มาคั่วไฟอ่อนๆ จนเกือบสุก แล้วนำมาใส่ถุงผ้าเล็กๆ หรือขวดแก้ว แล้วนำมาทาบที่ท้องน้อย กลิ่นของข้าวหรือธัญพืชจะช่วยให้ผ่อนคลายจากอาการปวดได้ อาจจะผสมน้ำมันอะโรม่าต่างๆ ได้ตามชอบ อาจจะเปิดเพลงเพราะๆ ฟังสบายๆ ไปด้วยก็ดีนะคะ
เมนูโปรดลดปวดได้สาวๆ ควรเลือกรับประทานผักและผลไม้สด เพราะมีวิตามินและเกลือแร่ น้ำมันมะกอก ข้าวกล้องและนม แต่ไม่ควรรับประทานอาหารจำพวกไขมัน เนื้อสัตว์ ไส้กรอก เนยแข็ง เนยเหลว ข้าวขัดสี ส่วนสาวที่ชื่นชอบกาแฟและแอลกอฮอล์ก็ควรงดนะคะ
สมุนไพรจีนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยสาวๆ คลายปวดได้อย่าง "ตังกุย" ที่อุดมไปด้วย วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 กรดโฟลิก และไบโอติน มีคุณสมบัติในการต้านการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก รวมทั้งสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต บำรุงเลือด และฟอกเลือด ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ